น่าเป็นห่วง

   ประเทศไทยตกหล่ม ติดขัด ไม่ขยับไปไหนมาหลายปีแล้ว จนบางคนบอกว่าจะกลายเป็น “หลุมดำของอาเซียน” ไปแล้ว
 
   เรามีความขัดแย้งแตกแย้งกันมาก สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาคือ การพัฒนาที่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม รวยกระจุก จนกระจาย ยิ่งพัฒนา คนส่วนน้อยได้มาก คนส่วนมากได้น้อย ช่องว่างห่างมากขึ้นไปเรื่อย
 
   ไม่ว่ารัฐบาลใด มาจากไหน ก็แก้ไม่ได้ ยิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งเร่งพัฒนา ทำโน่นทำนี่แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวดเร็ว ไม่ฟังใคร ยิ่งอาจทำให้ปัญหาหนักขึ้น ชุมชนท้องถิ่น คนเล็กคนน้อยได้รับผลกระทบจากนโยบายและการดำเนินงานของรัฐมากขึ้น เหลื่อมล้ำมากขึ้น แตกแยกมากขึ้น
 
   การแก้ปัญหาการติดขัดของบ้านเมือง ต้องปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ ปฏิรูประบบรัฐราชการที่รวมศูนย์อำนาจ ที่คิดแทน ทำแทนไปเสียทุกเรื่อง ปรับไปสู่ระบบรวมตัว ร่วมคิด ร่วมทำ จัดแบ่งสรรอำนาจและทรัพยากรให้ชุมชน ท้องถิ่น ร่วมคิด ร่วมทำเพื่อ จัดการกันเองในเรื่องกิจกรรมสาธารณะทั่วไป
 
   กระจายทรัพยากรให้ทั่วถึง แก้กฎหมายเก่า ออกกฎหมายใหม่ เพื่อจัดระบบและโครงสร้างการบริหารบ้านเมืองในทิศทางที่ส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง สามารถแบกรับภาระและทำงานสาธารณะได้มากขึ้นและดีขึ้นอย่างเป็นระบบ
 
   ส่งเสริมให้ภาคส่วนต่างๆ ที่ไม่ใช่เพียงภาครัฐเท่านั้น เข้ามาเป็น “หุ้นส่วนทางสังคม” ทำงานสาธารณะ รวมกับรัฐหรือทำแทนรัฐให้ชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น
 
   ทำให้เกิดเป็นสังคม “ร่วมด้วย ช่วยกัน” แทนที่จะเป็นสังคม “คิดแทน ทำแทน” แบบเดิม
 
   รัฐราชการกลาง ควรหันมาเน้นทำเฉพาะงานที่ยาก ที่มีผลกระทบวงกว้าง ควบคุมกำกับ รักษากฎหมาย ระเบียบกติกาให้เคร่งครัด
 
   ถ้าตั้งทิศผิด คิดและเชื่อในเส้นทางที่ผิด ต่อให้มีอำนาจมากเท่าใด ให้ปรารถนาดีเพียงใด ให้ใช้คำว่าปฏิรูปบ่อยแค่ไหน ให้มีอีกกี่กลไก กี่สภา กี่คณะกรรมการ ก็ยากที่จะพาประเทศไทยขึ้นจากหล่ม