เล่า...เรื่องของ สช.

   เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่มีการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่มีรัฐบาลชุดใหม่ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่ประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในที่ประชุม นายมานิจ สุขสมจิตร กรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีในนามของ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.)
 
   การประชุมดังกล่าวได้พิจารณาหลายระเบียบวาระ โดยหนึ่งในระเบียบวาระสำคัญคือ การแต่งตั้งเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเห็นชอบแต่งตั้งให้ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติคนใหม่ ตามที่คณะกรรมการบริหาร สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้คัดเลือก ซึ่งจะได้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาลงนามในคำสั่งแต่งตั้งต่อไป
 
   สำหรับวาระสำคัญๆ อื่นๆ ประกอบด้วย ความก้าวหน้าการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ซึ่งผลการดำเนินงานธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ฯ ที่ผลักดันกันมากว่า 2 ปี มีกิจกรรมรูปธรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการจับคู่วัดกับโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าหมายไว้ 5,000 แห่งในปี 2562 ซึ่งปรากฏว่าสามารถดำเนินการได้ถึง 9,500 กว่าแห่งทั่วประเทศ ส่วนการอบรมพระคิลานุปัฏฐาก หรือพระที่จะดูแลพระด้วยกันที่เจ็บป่วย มีการอบรมไปแล้วราว 4,000 รูปทั่วประเทศ
 
   ในส่วนของการจัดทำฐานข้อมูลพระสงฆ์ ทำให้พระสงฆ์มีบัตรประชาชนเพื่อเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้น สำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) ได้ส่งมอบข้อมูลพระสงฆ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 จำนวน 152,283 รูปจากจำนวนทั้งหมด 261,505 รูป คิดเป็นร้อยละ 58 ให้กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ตรวจสอบสิทธิการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพแล้ว 138,125 รูปพบว่า มีสิทธิในระบบประกันสุขภาพทุกระบบร้อยละ 96 ในจำนวนนี้มีสิทธิในระบบประกันสุขภาพที่ตรงกับวัดที่จำวัดอยู่ประมาณร้อยละ 78 ส่วนที่ไม่ปรากฎในฐานข้อมูลประชากรของ สปสช.มีประมาณ 3,000 รูป
 
   รองนายกรัฐมนตรี อนุทินฯ จึงได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สานพลังการทำงานร่วมกันเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมจากคณะสงฆ์และภาคีทุกภาคส่วนทั่วประเทศ เพื่อให้ธรรมนูญสุขภาพเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสุขภาวะและเข้าถึงบริการสาธารณสุขให้กับพระภิกษุสงฆ์กว่าสองแสนห้าหมื่นรูปทั่วประเทศ
 
   ในเรื่องการสรรหาคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ได้เริ่มกระบวนการสรรหาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 30 สิงหาคมนี้ ใน 2 กลุ่มแรกคือ กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ และกลุ่มผุ้แทนภาคเอกชน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตลอดกระบวนการ (E-Voting) ส่วนการสรรหาผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น คณะกรรมการสรรหาฯ จะประกาศเรื่องวิธีการ หลักเกณฑ์ ระยะเวลาในช่วงเดือนกันยายนนี้
 
   นอกจากนี้มีการรายงานถึงความคืบหน้าของมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 11 พ.ศ.2561 ภายใต้ประเด็นหลัก “รู้เท่าทันสุขภาพ ร่วมสร้างสังคมสุขภาวะ” ซึ่งมีฉันทามติ 4 มติด้วยกัน สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการได้เสนอมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คมส.) ทราบ และกำหนดแผนขับเคลื่อน รวมทั้งได้ส่งมติฯ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และอยู่ระหว่างการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบต่อไป
 
   สำหรับการจัดประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ซึ่งจะจัดประชุมระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้ประเด็นหลัก ก้าวทัน “การเปลี่ยนแปลง...สู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะ” นั้น ได้มีการประกาศระเบียบวาระการประชุมเบื้องต้น 2 เรื่องคือ “การทบทวนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน” และ “วิถีเพศภาวะ เสริมพลังสุขภาพจิตครอบครัว”
 
   อีกหนึ่งวาระที่กรรมการฯ ได้เห็นชอบในการประชุมคือ การสรรหากรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) ทดแทนในตำแหน่งที่ว่างลงตามรายชื่อที่ได้รับการสรรหา
 
   ท้ายนี้ขอแสดงความยินดีต่อ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ ที่ได้รับความเห็นชอบจากกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ในการเป็นเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติคนใหม่ และรับหน้าที่ในการสานพลังเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาวะทางสังคมต่อไป... สวัสดีค่ะ