การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ หรือ เอชไอเอ มาจากคำว่า Health Impact Assessment (HIA) มีพื้นฐานมาจากหลักสิทธิ ธรรมาภิบาล เพื่อการพัฒนา และขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมที่ เป็นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของสังคมไปพร้อมๆกัน โดยวิเคราะห์และคาดการณ์ผลกระทบทั้งทางบวก และทางลบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาจจะเกิด ขึ้นจากนโยบาย โครงการ หรือกิจกรรม อย่างใด อย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง หากดำเนินการในช่วงเวลาและพื้นที่เดียวกัน มีการประยุกต์ใช้เครื่องมือ ที่หลากหลายและมีกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดการดำเนินการร่วมกันของหลายภาคส่วน โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการในการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพที่กำหนดตาม พ.ร.บ.สุขภาพ แห่งชาติ เป็นแนวปฎิบัติ
กลไกในการพัฒนางานเอชไอเอมีการประสานการขับเคลื่อนที่ภาคส่วนต่างๆ มาร่วมกัน โดยคณะกรรมการพัฒนาระบบและกลไกเอชไอเอ (HIA Commission) และเครือข่ายพันธกิจงานเอชไอเอ (HIA Consortium) รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนที่สนใจเอชไอเอสามารถรวมกลุ่มกันเพื่อทำการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพได้ตามความสนใจของชุมชน (Community-driven HIA; CHIA) ทั้งนี้มีชุมชนที่ได้ดำเนินการดังกล่าวใน ๒๖ พื้นที่กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเป็น ประเด็นนโยบายเหมืองแร่ ๑๑ พื้นที่ นโยบายพลังงาน ๕ พื้นที่ นโยบายแผนพัฒนาภาคใต้ ๗ พื้นที่ และ นโยบายอื่นๆ อีก ๓ พื้นที่
นอกจากการดำเนินการประเมินผลกระทบด้าน สุขภาพในประเทศไทยแล้ว ยังมีความจำเป็นใน การประสานงานเอชไอเอ กับประชาคมอาเซียน โดยมีผู้แทนหลักของแต่ละประเทศได้แก่ ASEAN Focal Point on HIA (AFPHIA) รวมถึงเชิญชวน สถาบันการศึกษาให้ร่วมมือกันในการประชุม 6th International Conference on Public Health among the Greater Mekong Sub-Region Countries ทั้งนี้โดยหวังให้มีความร่วมมือระหว่าง ประเทศรองรับการพัฒนาประชาคมอาเซียน เพื่อ ให้มีความพร้อมในความร่วมมือกันในการประเมิน ผลกระทบด้านสุขภาพต่อไป
การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ หรือ เอชไอเอ มาจากคำว่า Health Impact Assessment (HIA) มีพื้นฐานมาจากหลักสิทธิ ธรรมาภิบาล เพื่อการพัฒนา และขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมที่ เป็นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของสังคมไปพร้อมๆกัน โดยวิเคราะห์และคาดการณ์ผลกระทบทั้งทางบวก และทางลบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาจจะเกิด ขึ้นจากนโยบาย โครงการ หรือกิจกรรม อย่างใด อย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง หากดำเนินการในช่วงเวลาและพื้นที่เดียวกัน มีการประยุกต์ใช้เครื่องมือ ที่หลากหลายและมีกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดการดำเนินการร่วมกันของหลายภาคส่วน โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการในการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพที่กำหนดตาม พ.ร.บ.สุขภาพ แห่งชาติ เป็นแนวปฎิบัติ
กลไกในการพัฒนางานเอชไอเอมีการประสานการขับเคลื่อนที่ภาคส่วนต่างๆ มาร่วมกัน โดยคณะกรรมการพัฒนาระบบและกลไกเอชไอเอ (HIA Commission) และเครือข่ายพันธกิจงานเอชไอเอ (HIA Consortium) รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนที่สนใจเอชไอเอสามารถรวมกลุ่มกันเพื่อทำการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพได้ตามความสนใจของชุมชน (Community-driven HIA; CHIA) ทั้งนี้มีชุมชนที่ได้ดำเนินการดังกล่าวใน ๒๖ พื้นที่กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเป็น ประเด็นนโยบายเหมืองแร่ ๑๑ พื้นที่ นโยบายพลังงาน ๕ พื้นที่ นโยบายแผนพัฒนาภาคใต้ ๗ พื้นที่ และ นโยบายอื่นๆ อีก ๓ พื้นที่
นอกจากการดำเนินการประเมินผลกระทบด้าน สุขภาพในประเทศไทยแล้ว ยังมีความจำเป็นใน การประสานงานเอชไอเอ กับประชาคมอาเซียน โดยมีผู้แทนหลักของแต่ละประเทศได้แก่ ASEAN Focal Point on HIA (AFPHIA) รวมถึงเชิญชวน สถาบันการศึกษาให้ร่วมมือกันในการประชุม 6th International Conference on Public Health among the Greater Mekong Sub-Region Countries ทั้งนี้โดยหวังให้มีความร่วมมือระหว่าง ประเทศรองรับการพัฒนาประชาคมอาเซียน เพื่อ ให้มีความพร้อมในความร่วมมือกันในการประเมิน ผลกระทบด้านสุขภาพต่อไป